SET 1

SET ฟื้นตัวจำกัด หลังวานนี้ปิดหลุด 1,420 จุด สร้างสัญญาณลบทางเทคนิคต่อ

บริษัทหลักทรัพย์อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ตรวจสอบว่าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ยังคงอยู่ในช่วงพักตัว โดยที่ราคาปิดวันก่อนหน้านี้ลงต่ำกว่าระดับ 1,420 จุด ซึ่งสร้างสัญญาณลบทางเทคนิค เข้าสู่ขั้นต่ำถัดไปที่ 1,410 และ 1,400 จุดตามลำดับ ตลาดหุ้นสหรัฐกำลังปรับตัวขึ้นเล็กน้อย แต่คาดว่าอาจเป็นเพียงช่วงสั้น มีกรอบบนที่รองรับที่ 1,426 และ 1,436 จุดตามลำดับ

การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นไทยมีโอกาสเกิดต่อไป แต่ยังคงอยู่ภายใต้โอกาสที่ถูกจำกัด เนื่องจากปัจจัยภายนอกยังมีความผันผวน และรองรับการปรับตัวใหม่ๆ กำลังจะปรากฏ ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้เลือก “Selective Buy” ในหุ้นที่มีโอกาสได้รับผลบวก ดังนี้

หุ้นที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จาก “January Effect” ที่พบว่าในระหว่างปี 2544-2566 SET มีโอกาสปรับขึ้น 69.23% และให้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 1.37% ต่อนั้น ในกลุ่มนี้ แนะนำ AOT, KTB, KBANK, และ DIF ที่แสดงให้เห็นว่าเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนดีเมื่อเทียบกับ SET

หุ้นที่จะได้รับประโยชน์จาก Bond Yield ที่ปรับลดลง รวมถึงหุ้นในกลุ่มพาณิชย์ (CPALL, CPAXT), การแพทย์ (BDMS), โรงไฟฟ้า (GULF), อสังหา (AP) และ Consumer Finance (TIDLOR)

หุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากโครงการ Easy e-Receipt ที่ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 5 หมื่นบาท ที่เริ่มใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2567 ได้แก่ CRC, HMPRO, ZEN, MINT, และ ADVANC

ขณะที่ในระยะกลางแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากภาวะเอลนีโญที่จะมีผลต่อการซื้อภาคเกษตรลดลง ได้แก่ กลุ่มสินเชื่อ (MTC, SAWAD), กลุ่มยานยนต์ (SAT, STANLY), กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG, จากราคาน้ำตาลที่สูงขึ้น) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF, GFPT, BTG)

สำหรับหุ้นที่แนะนำในวันนี้ ได้แก่ GPSC ในช่วงสั้นที่ได้รับ sentiment บวกจาก Bond Yield ลดลง และราคาก๊าซที่อยู่ในระดับต่ำจากฤดูหนาวที่อบอุ่นกว่าปกติ ขณะที่ติดต่อกำลังซื้อขายไฟฟ้าให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมเป็นตัวชี้วัดของราคาก๊าซ ช่วยลดความผันผวนของผลตอบแทนจากค่า Ft ที่ไม่สอดคล้องกับต้นทุน

และหุ้น KCE ที่บันทึกผลการดำเนินงานที่ฟื้นตัว โดยคาดว่าในไตรมาส 4/2566 กำไรจากการดำเนินงานจะเพิ่มขึ้น 25.8%QoQ และ 16.8%YoY จากการเพิ่มความต้องการ (Restocking) ของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ โดยเฉพาะ HDI ซึ่งมี Backlog ค่อนข้างมาก รวมถึงต้นทุนราคาทองแดงที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ ส่วนค่าไฟฟ้าที่คาดว่าจะลดลง

ขอบคุณบทความจาก : SET